ใช้ Cloud Server, VPS, Dedicated Server หรือ Colocation ที่เป็น Public IP การป้องกัน Ransomware และความเสี่ยงต่างๆ ต้องมีการดำเนินการและตั้งค่าที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์ดังนี้:
- อัปเดตและรักษาความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ: เพื่อให้แน่ใจว่า Operating System ของเซิฟเวอร์ได้รับการอัปเดตล่าสุดและได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ติดตั้งแพทช์และอัปเดตที่มีประจำเพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่เจอในระบบปฏิบัติการ
- ใช้การระบุและการตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง: จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงที่เปิดเผยข้อมูลสำคัญ รวมถึงให้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต หากใช้ Cloud Server สามารถกำหนด Security group ได้ตามขั้นตอนด้านล่าง https://customer.readyidc.com/index.php?/knowledgebase/article/240/add-firewall-rule/
- ทำการกำหนดรหัสผ่านให้มีความคาดเดายาก เช่น ให้มีตัวอักษรแบบ ตัวเล็ก ตัวใหญ่ มีอักษรพิเศษ
- ใช้ Firewall และ Intrusion Detection/Prevention Systems (IDS/IPS): ติดตั้ง Firewall เพื่อกักขั้นการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและตั้งค่า IDS/IPS เพื่อตรวจสอบและป้องกันการบุกรุกในระบบ สามารถติดต่อฝ่ายขาย Email : sales@readyidc.com
- สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ: สำรองข้อมูลและไฟล์สำคัญของคุณในระบบ Cloud อย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดการโจมตี ransomware
- บริการ VPS Business มีการสำรองข้อมูลรายวัน โดยเก็บข้อมูลย้อนหลังให้สูงสุด 7 วัน ฟรีไปกับ Package ของลูกค้าที่ใช้งาน (สามารถซื้อเพิ่มได้)บริการ Cloud Server มีการสำรองข้อมูลรายวัน โดยเก็บข้อมูลย้อนหลังให้สูงสุด 3 วัน ฟรีไปกับ Package ของลูกค้าที่ใช้งาน (สามารถซื้อเพิ่มได้)
- การตรวจจับ malware: ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสและโปรแกรมตรวจสอบ malware ที่มีความเสี่ยงใน Cloud Server เพื่อตรวจสอบและต้านการแพร่กระจายของ ransomware เช่น Trendmicro, Sophos, Symantec Endpoint สามารถติดต่อฝ่ายขาย Email : sales@readyidc.com
- กรณีใช้งาน Map drive, access database จากภายนอกเข้ามา ทางเราแนะนำให้ทำ IPSec VPN site to site เพิ่มเติม เพื่อออกแบบให้ Solution เกิดความปลอดภัยมากกว่าการเข้าใช้งานแบบ Public IP โดยตรง
ติดต่อฝ่ายขาย Email : sales@readyidc.com